ศูนย์บริการโลหิตแห่งชาติ สภากาชาดไทย ได้รับมอบหมายจากรัฐบาลเพื่อดำเนินการให้บริการโลหิตของประเทศให้มีปริมาณเพียงพอและมีความปลอดภัย โดยส่วนกลางมีศูนย์บริการโลหิตแห่งชาติ เป็นสำนักงานใหญ่ ดำเนินการจัดหาโลหิต เจาะเก็บโลหิต ตรวจคัดกรองโลหิต เตรียมส่วนประกอบโลหิต และจ่ายโลหิตให้กับโรงพยาบาลต่างๆ ในกรุงเทพฯและภูมิภาค และเพื่อให้การดำเนินงานบริการโลหิตมีความรวดเร็วและเพียงพอต่อความต้องการของผู้ป่วยทั่วประเทศ ศูนย์บริการโลหิตแห่งชาติ จึงได้จัดสร้างภาคบริการโลหิตแห่งชาติ 12 แห่งทั่วประเทศ ตั้งแต่ปี 2539 เป็นต้นมา เพื่อเป็นศูนย์กลางการตรวจคัดกรองคุณภาพโลหิต และจัดตั้งระบบเครือข่ายด้านงานบริการโลหิต โดยมีภาคบริการโลหิตแห่งชาติ เป็นศูนย์กลางฐานข้อมูลผู้บริจาคโลหิต เพื่อบริหารจัดการโลหิตให้เพียงพอแก่ความต้องการใช้ของจังหวัดต่างๆ รวมถึงเป็นศูนย์กลางให้ความรู้การฝึกอบรมแก่แพทย์ พยาบาล และผู้ปฏิบัติงานที่เกี่ยวข้องกับงานบริการโลหิตในพื้นที่
จากสถานการณ์ขาดแคลนโลหิตที่รุนแรงอย่างต่อเนื่องในปัจจุบัน ส่งผลให้ศูนย์บริการโลหิตแห่งชาติ จำเป็นต้องรณรงค์จัดหาผู้บริจาคโลหิตเพิ่มขึ้นทั้งภายในและภายนอกสถานที่ อีกทั้งศูนย์บริการภาคโลหิตแห่งชาติ และสถานที่ทำการปัจจุบันมีความคับแคบ ทำให้ไม่สะดวกต่อผู้บริจาคโลหิต และไม่สามารถเพิ่มอุปกรณ์เครื่องมือที่มีความจำเป็นได้ ดังนั้น ศูนย์บริการโลหิตแห่งชาติ จึงได้จัดทำโครงการก่อสร้างอาคารภาคบริการโลหิตแห่งชาติ (หลังใหม่) เพื่อลดปัญหาและยกระดับมาตรฐานการบริการที่ดีให้แก่ผู้มาใช้บริการ โดยมีโครงการที่อยู่ในระหว่างการดำเนินการและต้องการงบประมาณเพิ่มเติมในการก่อสร้าง 2 แห่ง คือ 1) ภาคบริการโลหิตแห่งชาติที่ 10 จังหวัดเชียงใหม่ และ 2) ภาคบริการโลหิตแห่งชาติที่ 11 จังหวัดนครศรีธรรมราช โดยตั้งงบประมาณในการก่อสร้างไว้ 110,000,000 บาท
สถิติการจัดหาโลหิต ปี พ.ศ. 2563 ในส่วนกลางโดยศูนย์บริการโลหิตแห่งชาติ จัดหาโลหิตได้ จำนวน 828,952 ยูนิต ส่วนภูมิภาค โดยภาคบริการโลหิตแห่งชาติ 12 แห่งทั่วประเทศ จำนวน 471,907 ยูนิต และในปี พ.ศ. 2564 ศูนย์บริการโลหิตแห่งชาติ ได้ตั้งเป้าหมายในการจัดหาโลหิตทั่วประเทศ จำนวน 1,220,000 ยูนิต แบ่งเป็น ศูนย์บริการโลหิตแห่งชาติ จำนวน 718,000 ยูนิต และภาคบริการโลหิตแห่งชาติ จำนวน 502,000 ยูนิต ซึ่งการจัดหาโลหิตโดยภาคบริการโลหิตแห่งชาติ 12 แห่งทั่วประเทศ สามารถช่วยบางเบาภาระของศูนย์บริการโลหิตแห่งชาติในการจัดหาโลหิตให้กับผู้ป่วยทั่วประเทศได้เป็นอย่างดี แต่ทั้งนี้ ภาคบริการโลหิตแห่งชาติบางแห่ง ยังมีข้อจำกัดในเรื่องของพื้นที่ที่คับแคบ ไม่สามารถขยายออกไปได้ ทำให้ไม่สามารถรองรับกับการขยายศักยภาพการดำเนินงานบริการโลหิตแบบครบวงจรของภาคบริการโลหิตแห่งชาติได้ จึงจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องจัดหาพื้นที่และสร้างอาคารภาคบริการโลหิตแห่งชาติหลังใหม่
ศูนย์บริการโลหิตแห่งชาติ สภากาชาดไทย ขอเชิญชวนท่านผู้มีจิตกุศลทุกท่านร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการ "จัดสร้างภาคบริการโลหิตแห่งชาติ" จำนวน 2 แห่ง คือ 1) ภาคบริการโลหิตแห่งชาติที่ 10 จังหวัดเชียงใหม่ และ 2) ภาคบริการโลหิตแห่งชาติที่ 11 จังหวัดนครศรีธรรมราช เพื่อพัฒนางานบริการโลหิตให้มีความก้าวหน้า และได้มาตรฐานตามหลักสากล ดำเนินงานแบบครบวงจร มีความปลอดภัยสูงสุด และเพียงพอต่อการรักษาผู้ป่วยทั่วประเทศ